การครอบแก้ว (Cupping Therapy)

การครอบแก้ว (Cupping)

 การครอบแก้วเป็นการรักษาอีกวิธีหนึ่งของแพทย์แผนจีน โดยในสมัยโบราณจะใช้เขาสัตว์หรือกระบอกไม้ไผ่ แต่ปัจจุบันวัสดุที่ใช้จะเป็นแก้วใสทรงกลม จุดไฟแล้วนำเปลวไฟเข้าไปในแก้วทรงกลมเพื่อให้เกิดสูญญากาศภายในแก้ว แล้วจึงนำมาวางครอบบริเวณต่างๆ บนร่างกาย

ที่มาของภาพ : Eu Yan Sang

ตามศาสตร์การแพทย์แผนจีนอธิบายไว้ว่า ความร้อนจากไฟขณะทำการครอบจะช่วยขับไล่ความเย็นที่อยู่ในเส้นลมปราณ ความเย็นมีกลไกของโรคทำให้การไหลเวียนของลมปราณติดขัดเมื่อเกิดการติดขัดก็จะทำให้เกิดอาการปวด เมื่อครอบเเก้วเเล้วลมปราณภายในร่างกายจะไหลเวียนเป็นไปอย่างปกติ อาการปวดจึงหายไป

เมื่อมองตามหลักวิทยาศาสตร์การครอบแก้วคือการใช้สูญญากาศ ครอบไปยังบริเวณผิวหนัง การที่ผิวหนัง ถูกดูดด้วยแก้วที่เป็นสูญญากาศจะทำให้เกิดการไหลเวียนของเลือดบริเวณนั้นอย่างมาก เป็นการปั๊มเลือดเข้าสู่ กล้ามเนื้อบริเวณที่ทำการครอบเเก้ว หลอดเลือดฝอยขยายตัวขึ้น นำมาสู่การที่เนื้อเยื่อได้รับเลือดออกซิเจน มากขึ้น กระบวนการซ่อมแซมจึงมีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกหนึ่งวิธีของการครอบแก้วที่นิยมใช้กันคือ การ ครอบแก้วพร้อมกับการเดินแก้ว ลากไปตามแนวเส้นลมปราณหรือตามกล้ามเนื้อบริเวณต่างๆ เป็นการยืด กล้ามเนื้อ (Muscle) และ พังผืด (Fascia) ที่ระดับผิว (Superficial) ซึ่งสามารถลดความเจ็บปวดจาก กลุ่มโรคกล้ามเนื้อได้เป็นอย่างดี

นับเป็นภูมิปัญญาของคนจีนสมัยโบราณอันชาญฉลาดส่งทอดมาถึงปัจจุบันใช้กันอย่างแพร่หลายและยังคงได้รับความนิยม สามารถนำมาใช้ได้อย่างปลอดภัยในยุคสมัยปัจจุบันที่ผู้ป่วยกำลังมองหาวิธีบำบัดรักษาร่างกายโดยอาศัยวิธีธรรมชาติเพื่อลดการใช้สารเคมีให้ได้มากที่สุด

การรักษาโรคโดยการครอบแก้ว (Cupping) สามารถช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในบริเวณที่มีการติดขัดทำให้เลือดและพลังมีการไหลเวียนที่ดีขึ้น  สามารถรักษาอาการปวด โดยเฉพาะบริเวณ บ่า หลัง และเอว (เหมาะสำหรับผู้ที่ทำงานนั่งโต๊ะหรือใช้คอมพิวเตอร์เป็นระยะเวลานาน ) และด้านการส่งเสริมความงามช่วยให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่ง มีเลือดฝาด  หลังจากการทำครอบแก้วแล้ว บริเวณผิวหนังอาจมีรอยคล้ำ  แต่ไม่มีอันตราย รอยจะหายเองในเวลาประมาณ 5 – 7  วันและสามารถทำได้อีกเมื่อรอยจางหาย