ย้อนรอยวิถีอาหารไทย

ย้อนรอยวิถีอาหารไทย
Volume: 
ฉบับที่ 32 เดือนสิงหาคม 2561
Column: 
Healthy Eating
Writer Name: 
แพรวพาชิม

ย้อนรอยวิถีอาหารไทย

อ้อ ออ เจ้าเอ้ยเอ้อ เออ เอ่ย สวัสดีเจ้าค่ะ วันนี้เรามาแบบหญิงไทยใจกล้า เอ้ย! หญิงไทยใจงาม งามทั่วทั้งตัวจรดปลายจวัก ด้วยกระแสความเป็นไทยที่กำลังฟีเวอร์สุด ๆ ในขณะนี้ ไม่ว่าจะไปงานไหน ธีมงานก็จะต้องนุ่งโจงห่มไทย นุ่งสไบใส่ซิ่น ดูแล้วเหมือนหลุดย้อนเข้าไปในสมัยก่อน ความเป็นไทยไม่ได้หยุดแค่การแต่งตัว แต่ยังลามไปถึงอาหารย้อนยุคอีกด้วยเจ้าค่ะ ไม่ว่าจะเป็นหมูโสร่ง ขนมไทยตระกูลทองทั้งหลาย และอาหารไทยอื่น ๆ อีกมากมายที่พูดเท่าไรก็คงไม่หมด สำหรับ Healthy Eating ฉบับนี้ เราขอนำทุกท่านย้อนยุคไปกับอาหารชาววัง ที่มีชื่ออยู่ใน “กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน” นี่เราย้อนกลับไปถึงรัชสมัยรัชกาลที่ ๒ เลยหรือเจ้าคะ

กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน เป็นพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๒ ซึ่งพรรณนาเกี่ยวกับอาหารในวัง สันนิษฐานว่าเป็นการรำพึงรำพันถึงสมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี ซึ่งมีฝีพระหัตถ์ในการแต่งเครื่องเสวย โดยนำลักษณะอาหาร และส่วนประกอบของอาหารมาเชื่อมโยงกับการรำพึงรำพัน ดังตัวอย่างกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานที่นำมานี้

  • มัสมั่นแกงแก้วตา                หอมยี่หร่ารสร้อนแรง  
    ชายใดได้กลืนแกง               แรงอยากให้ใฝ่ฝันหา
  • ยำใหญ่ใส่สารพัด                วางจานจัดหลาย 
    รสดีด้วยน้ำปลา                  ญี่ปุ่นล้ำย้ำยวนใจ
  • ตับเหล็กลวกหล่อนต้ม       เจือน้ำส้มโรยพริกไทย  
    โอชาจะหาไหน                       ไม่มีเทียบเปรียบมือนาง
  • หมูแนมแหลมเลิศรส             พร้อมพริกสดใบทอง  
    พิศห่อเห็นรางชาง                ห่างห่อหวนป่วนใจโหย
  • ก้อยกุ้งปรุงประทิ่น               วางถึงลิ้นดิ้นแดโดย  
    รสทิพย์หยิบมาโปรย            ฤๅจะเปรียบเทียบทันขวัญ
  • เทโพพื้นเนื้อท้อง                   เป็นมันย่องล่องลอยมัน  
    น่าซดรสครามครัน               ของสวรรค์เสวยรมย์
  • ความรักยักเปลี่ยนท่า           ทำน้ำยาอย่างแกงขม  
    กลอ่อมกล่อมเกลี้ยงกลม     ชมไม่วายคล้ายคล้ายเห็น
  • ข้าวหุงปรุงอย่างเทศ             รสพิเศษใส่ลูกเอ็น  
    ใครหุงปรุงไม่เป็น                   เช่นเชิงมิตรประดิษฐ์ทำ
  • เหลือรู้หมูป่าต้ม                     แกงคั่วส้มใส่ระกำ  
    รอยแจ้งแห่งความขำ             ช้ำทรวงเศร้าเจ้าตรากตรอม
  • ช้าช้าพล่าเนื้อสด                   ฟุ้งปรากฏรสหื่นหอม  
    คิดความยามถนอม               สนิทเนื้อเจือเสาวคนธ์
  • ล่าเตียงคิดเตียงน้อง            นอนเตียงทองทำเมืองบน  
    ลดหลั่นชั้นชอบกล               ยลอยากนิทรคิดแนบนอน
  • เห็นหรุ่มรุมทรวงเศร้า           รุ่มรุ่มเร้าคือไฟฟอน  
    เจ็บไกลในอาวรณ์                  ร้อนรุมรุ่มกลุ้มกลางทรวง
  • รังนกนึ่งน่าซด                        โอชารสกว่าทั้งปวง  
    นกพรากจากรังรวง              เหมือนเรียมร้างห่างห้องหวน
  • ไตปลาเสแสร้งว่า                    ดุจวาจากระบิดกระบวน    
    ใบโศกบอกโศกครวญ           ให้พี่เคร่าเจ้าดวงใจ
  • ผักโฉมชื่อเพราะพร้อง           เป็นโฉมน้องฤๅโฉมไหน   
    ผักหวานซ่านทรวงใน            ใคร่ครวญรักผักหวานนาง

จากกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน อาหารชาววังบางอย่างก็เป็นอาหารที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน โดยเฉพาะบางชื่อ หากฟังเผิน ๆ คงทำให้คิดลึกได้เลยทีเดียว ชื่อที่ว่าก็คือ

ย้อนรอยวิถีอาหารไทย

“ล่าเตียง”

ล่าเตียงเป็นอาหารว่าง ที่ใช้ไข่ทอดให้เป็นแพ หรือเป็นตาข่ายห่อคลุมไส้หมูสับผัดที่มีรสเผ็ดอ่อน ๆ จากพริกไทย หวานเค็มเล็กน้อย และวันนี้เราจะมาทำเมนูล่าเตียงกันนะเจ้าคะ ตามอิฉันเข้าครัวมาเลยเจ้าค่ะ

หยิบของตามอิฉัน ดังนี้

หมูสับ ๑/๒ ถ้วยตวง
ไข่ไก่ ฟอง
ไข่เป็ด ฟอง
รากผักชีกระเทียมพริกไทย ช้อนชา
น้ำตาลปึก ช้อนชา
เกลือ ๑/๔ ช้อนชา
น้ำมันรำข้าวเล็กน้อย (สำหรับกลิ้งไข่)
พริกชี้ฟ้าซอย และผักชี สำหรับตกแต่ง

 

ย้อนรอยวิถีอาหารไทย

วิธีปรุง

๑. นำกระทะตั้งไฟ ตามด้วยน้ำมัน ๒ ช้อนชา พอร้อนตามด้วยรากผักชีกระเทียมพริกไทย ผัดพอหอม ใส่หมูสับผัดจนสุก ปรุงรส ผัดให้เข้ากัน ชิมรส ตักขึ้นพักไว้

๒. ตีไข่เป็ดและไข่ไก่ผสมให้เข้ากัน เทผ่านกระชอนกรอง ๑-๒ รอบ จากนั้นตั้งกระทะให้ร้อน กลิ้งน้ำมันให้ทั่วกระทะ แล้วเทออก ใช้นิ้วมือทั้ง ๕ นิ้ว จุ่มลงไปในส่วนผสมไข่ สลัดไปมาบนกระทะให้เป็นตาข่าย พอสุกตักขึ้นพักไว้ให้อ่อนตัว อย่าทอดนานเกินไปจะทำให้ไข่กรอบ ห่อได้ยาก 

๓. จัดประกอบล่าเตียง โดยนำผักชี และพริกชี้ฟ้าวางลงบนไข่ ตามด้วยหมูสับผัดในข้อ ๑ จากนั้นค่อย ๆ พับไข่ทั้งสี่ด้าน พลิกด้านที่พับลง จัดเสิร์ฟ ๔ ชิ้น ต่อ ๑ ที่

อาหารชาววังเป็นอาหารที่ต้องการความประณีต และประดิษฐ์ประดอย ถึงไม่ได้อยู่ในวังก็สามารถทำได้ไม่ยากล่าเตียงที่นำมาเสนอในวันนี้เป็นเมนูที่ใช้น้ำมันน้อย และใช้การปรุงน้อยมาก เน้นรสสมุนไพรไทยพวกรากผักชี กระเทียม พริกไทย ได้กลิ่นหอม และมีรสเผ็ดเล็ก ๆ เป็นอาหารว่างที่กินแล้วรู้สึกไม่เลี่ยนเลยละเจ้าค่ะ หากทานเป็นกับข้าว ก็ถือเป็นกับข้าวที่เน้นโปรตีน เพราะมีส่วนประกอบหลักเป็นเนื้อสัตว์

เมนูอาหารคาวที่นำมาเสนอในวันนี้หวังว่าคงถูกใจพวกออเจ้าทั้งหลาย คราวหน้าเราจะมีเมนูอะไรมานำเสนอนั้นต้องคอยติดตามชมนะเจ้าคะ แล้วพบกันใหม่ฉบับหน้า ลาแล้วเจ้าค่ะ

Column File (PDF): 
เนื้อหาภายในฉบับที่ 32