การเชื่อมต่อการประชุมทางไกลด้วยระบบ ISDN

ISDN (Integrated Services Digital Network)

เป็นระบบการสื่อสารในยุคที่เทคโนโลยีดิจิตอลเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น โดยระบบนี้ยังยึดการทำงานผ่านสัญญาณโทรศัพท์อยู่ แต่มีการส่ง และรับข้อมูลที่เพิ่มมากขึ้น โดยได้รับการสนุนการหัฒนาจาก ITU โดยเน้นให้มีความเร็วมากกว่า model 56 Kb ที่ใช้ตามบ้านทั่วไป (เด็กสมัยใหม่อาจจะนึกไม่ออกว่าการเล่นอินเตอร์เน็ตในความเร็ว 56 Kb มันจะรู้สึกยังไง) โดยความว่องไวของ ISDN ก็จะมากกว่าอินเตอร์เน็ตรุ่นโมเด็ม 56 Kb เป็นเท่าตัว เนื่องจากแยกการทำงานออกเป็น 2 ส่วนคือ Bearer channel และ Data หรือ Delta Channel โดย Bearer channels (B channels) ทำหน้าที่ให้บริการ เสียง วีดีโอ หรือการส่งถ่ายข้อมูล ในขณะที่ Data Channel (D channel) นั้นเป็นตัวจัดการสัญญาณเรียกเข้าในระบบ network และการตอบรับ กำหนดเบอร์เรียกเข้า

การใช้บริการ ISDN แบ่งออกเป็น 2 ชนิดคือ Basic Rate Interface (BRI) และ Primary Rate Interface (PRI) ในส่วนของ BRI นั้นจะใช้ 2 B channel คือ 64 kbps นั้นคือ 128 Kbps และใช้ 1 D channel 16 kbps รวมแล้วจะได้ bandwidth 144 kbps การบริการของ BRI นั้นเน้นที่ผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่ใช่ในระดับองค์กร ส่วนของ PRI นั้นจะเน้นการใช้งานในระดับองค์กรที่ไม่ใหญ่มากนักเพราะจะมี Bandwidth ที่มากกว่า และส่งข้อมูลได้ทีละมากๆ ที่ PRI จะใช้ 23 B channel และ 1 D channel plus 64 kbps รวมแล้วจะได้ถึง 1536 kbps ในแถบ Europe นั้น PRI จะใช้ 30 B channel และ 1 D channel 64 kbps Bandwidth รวมจะได้ 1984 kbps 

 

 

ส่วนประกอบที่ใช้ในระบบ ISDN 

1. ISDN Terminal Equipment 
มี 2 ชนิดคือ TE1 และ TE2 โดย TE1 นั้นคืออุปกรณ์นั้นจะต้องเป็นโทรศัพท์ที่เป็นระบบ ISDN อยู่แล้วโดยสายจะเป็น 4 เส้นตีเกลียว ส่วน TE2 นั้นจะเป็นโทรศัพท์บ้านทั่วไปซึ่งถ้าจะใช้งานแบบ ISDN ต้องมีอุปกรณ์เสริมที่เรียกว่า TA 

2. ISDN Termination Equipment 
เรียกในส่วนนี้ว่า NT (Network Terminal) เป็นส่วนที่ต่อระหว่างสายที่มี 4 เส้นตีเกลียวกับ สาย PSTN 2 เส้นด้าน Local loop ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ชนิด 

- NT1 เป็นส่วนที่ติดต่อโดยตรงกับ ISDN ภายนอกกับส่วน NT2 

- NT2 สำหรับ digital PBX หรือส่วนที่ยอมให้มีการต่อ analog device เช่น โทรศัพท์ หรือ Fax แล้วเปลี่ยนเป็น Digital 

- NT1/2 จัดการทั้ง 2 ส่วนคือทั้ง NT1 และ NT2 

3. ISDN Reference Point 
จะแบ่งออกเป็น 4 ส่วน 

- R เป็นจุดต่อระหว่าง Non-ISDN หรืออุปกรณ์โทรศัพท์ทั่วไปกับ TA 

- S เป็นจุดต่อระหว่าง อุปกรณ์สำหรับ ISDN แล้วกับ NT2 

- T เป็นจุดต่อระหว่าง NT1 กับ NT2 device 

- U เป็นจุดต่อระหว่าง NT1 Device กับ วงจรภายนอก 

ในปัจจุบันอุปกรณ์ ISDN นั้นจะรวมชุด NT1 เข้ามาด้วยแล้วทำให้งานกับการใช้งานมากขึ้นครับ