การบริการด้านเวชศาสตร์นิวเคลียร์ ภาควิชารังสีวิทยา
หน่วยเวชศาสตร์นิวเคลียร์เป็นหน่วยงานทางการแพทย์ที่นำสารกัมมันตรังสีมาใช้ประโยชน์ในการตรวจวินิจฉัยและรักษาโรค เช่น ใช้เพื่อตรวจวินิจฉัยการแพร่กระจายของมะเร็งมายังกระดูกตรวจวินิจฉัยภาวะ กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดตรวจการทำงานของไตตรวจการทำงานของระบบทางเดินอาหาร เป็นต้น
- เป็นสารกัมมันตรังสีที่มีพฤติกรรมเหมือนกับไอโซโทปที่มีสภาวะเสถียรและเมื่อเข้าไปในร่างกายจะไม่มีผล
ต่อองค์ประกอบของร่างกาย - ไม่มีฤทธิ์ต่อขบวนการทางชีวเคมีของร่างกาย
- เป็นสารกัมมันตรังสีที่มีครึ่งชีวิตค่อนข้างสั้นเพียงพอที่จะทำการตรวจเสร็จสมบูรณ์
- ใช้สารปริมาณน้อยและไม่มีผลต่อร่างกาย
- ไม่มีผลต่อการทำงานของไตจึงใช้ได้ในผู้ป่วยที่ไตทำงานบกพร่อง การตรวจโดยใช้สารเภสัชรังสีไม่มีอันตราย
ต่อผู้ป่วยและยังไม่พบว่ามี ANAPHYLACTIC SHOCK จากสารเภสัชรังสีแม้ผู้ป่วยจะมีประวัติแพ้ไอโอดีน
เช่น แพ้สารทึบรังสีที่ใช้ ในการตรวจทางเอกซเรย์ก็ยังสามารถรับการฉีดสารเภสัชรังสีได้อย่างปลอดภัย
เนื่องจากใช้สารแต่ละชนิดในปริมาณที่เล็กน้อยเท่านั้นและถึงแม้จะมีรายงาน การตรวจพบอาการข้างเคียงแต่เป็นอัตรา
ที่ต่ำมากและมีอาการน้อย
แบ่งการให้บริการออกเป็น 2 ลักษณะดังนี้
1. การวินิจฉัย
1.1 ตรวจวินิจฉัยการทำงานของอวัยวะต่างๆ ด้วยเครื่อง Single Photon Emission Computed
Tomography (SPECT) เช่น
- การตรวจหัวใจ (Cardiovascular System)
- Myocardial Perfusion
- Radionuclide Ventriculography (MUGA)
- Myocardial Infarction
- การตรวจระบบทางเดินหายใจ (Lung Scan)
- การตรวจกระดูก (Bone Scan)
- การตรวจไขกระดูก (Bone Marrow Scan)
- การวัดความหนาแน่นของกระดูก (Bone Densitometry)
- การตรวจการอักเสบและการติดเชื้อ (Inflammation and Infection Scan)
- การตรวจเนื้องอก (Tumor Scan)
- Lymphoscintigraphy for Breast cancer and Melanoma (Sentinel Node)
- การตรวจตับและทางเดินน้ำดี (Hepatobiliary System)
- การตรวจระบบทางเดินอาหาร (Gastrointestinal System)
- การตรวจตับและม้าม (Liver and Spleen Scan)
- Liver blood pool imaging (Liver Red Blood Cell Scan)
- การตรวจระบบทางเดินปัสสาวะ (Renal Scan)
- โรคกรวยไตอักเสบ (Acute pyelonephritis และแผลเป็นที่ไต (renal scar: DMSA
SCAN)
- Obstructive uropathy (Diuretic Renal Scan)
- Renovascular hypertension
- การผ่าตัดปลูกถ่ายไต (Renal transplantation)
- การตรวจกระเพาะปัสสาวะ (Radionuclide cystography)
- การตรวจอัณฑะ (Thesticular Imaging on Scrotal Imaging)
- การตรวจต่อมไทรอยด์ (Thyroid Scan)
- การตรวจต่อมพาราไทรอยด์ (Parathyroid Scan)
- การตรวจหลอดเลือดดำ (Venous Scan)
- การตรวจทางเดินน้ำเหลือง (Lymphatic Scan)
- การตรวจระบบประสาทส่วนกลาง (Central Nervous System)
1.2 การเพิ่มประสิทธิภาพในการวินิจฉัยและการตรวจรักษาโรค ด้วยเครื่อง Computed Tomography(CT)
ที่แสดงการเปลี่ยนแปลงทางกายวิภาค มาทำการซ้อนทับกับภาพที่ได้จากเครื่อง SPECT ที่ บอกถึง
การทำงานของอวัยวะที่ตรวจ ซึ่งเราเรียกกระบวนการนี้ว่า SPET-CT Image Fusion เพื่อช่วยให้แพทย์
สามารถแปลผลได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น
1.3 การตรวจต่อมไทรอยด์ (Thyroid Uptake and Scan) : ใช้ในการศึกษาความผิดปกติของต่อมไทรอยด์
ตลอดจนดูการทำงานของต่อมไทรอยด์ที่มีการทำงานมากเกินไปหรือน้อยเกินไป โดยใช้เครื่อง Thyroid
Uptake
1.4 ตรวจวัดค่าความหนาแน่นของกระดูก ด้วยเครื่อง Bone Densitometer (BMD)
2. การรักษา
เรายังมีการรักษาโรคด้วยสารกัมมันตรังสีได้มีการยอมรับกันโดยทั่วไป ซึ่งได้แก่
- ต่อมไทรอยด์เป็นพิษ(radioiodine therapy for thyrotoxicosis) และภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน(Hyperthyroid)
- การรักษามะเร็งตับ (Radioiodine Lipiodol in Liver cancer)
- Radiation Synovectomy
เครื่องมือที่ใช้ในการตรวจ
(PET-CT)
ผู้ป่วยจะได้รับสารเภสัชรังสีก่อนการตรวจ ซึ่งวิธีการให้สารเภสัชรังสีมีหลายวิธีดังนี้
1. ฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำ
2. ฉีดเข้าทางใต้ผิวหนัง
3. วิธีรับประทาน
4. สูดดม
* ยกเว้น การตรวจความหนาแน่นกระดูกผู้ป่วยไม่ต้องให้สารเภสัชรังสี
ข้อปฏิบัติตัวในการตรวจ
- ก่อนตรวจ
เนื่องจากการตรวจรักษาทางเวชศาสตร์นิวเคลียร์ มีวิธีการตรวจที่หลากหลายตามอวัยวะที่จะตรวจ ดังนั้น การตรวจ
แต่ละชนิดจะมีการเตรียมตัวตรวจที่แตกต่างกันซึ่งเจ้าหน้าที่และแพทย์ที่ทำการตรวจรักษาจะอธิบายวิธีการเตรียมตัว
ตรวจและแจกเอกสารตามชนิดของการตรวจ
- ขณะตรวจ
1. ผู้ป่วยนอนนิ่ง ๆ ระหว่างตรวจโดยไม่ต้องกลั้นหายใจ
2. ผู้ป่วยที่เป็นเด็กหรือผู้ป่วยที่ไม่สามารถนอนนิ่ง ๆ ได้อาจต้องให้ยาระงับความรู้สึก ซึ่งจะอยู่ในดุลพินิจของแพทย์
3. ในระหว่างการตรวจจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแล ญาติและผู้ปกครองสามารถอยู่กับผู้ป่วยได้โดยไม่เป็นอันตรายใด ๆ
- หลังการตรวจ
1. ภายใน 24 ชั่วโมงแรกหลังการรับสารเภสัชรังสีควรหลีกเลี่ยงที่จะอยู่ใกล้เด็ก และคนท้อง
2. ระมัดระวังการเปรอะเปื้อนของปัสสาวะและอุจจาระ เช่น การราดน้ำล้างมาก ๆ และการล้างมือให้สะอาด
คำแนะนำในการตรวจ
1. การตรวจหัวใจ
2. การตรวจกระดูก (Bone Scan)
3. การตรวจวัดความหนาแน่นของกระดูก (BMD)
4. การตรวจต่อมไทรอยด์ (Thyroid Uptake and scan)
5. การตรวจผู้ป่วยเนื้องอกที่รักษาด้วยการรับประทานไอโอดีนรังสี
เวลาเปิดทำการ
ในเวลาราชการ
- ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 8.30 น.-16.30 น.
นอกเวลาราชการ
- ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.30 น. - 20.00 น. วันเสาร์เวลา 8.00 น. -16.00 น.
* หมายเหตุ วันเสาร์ เวลา 13.00 น.-16.00 น. ให้บริการเฉพาะการตรวจความหนาแน่นของกระดูกเท่านั้น
ที่ตั้ง หน่วยเวชศาสตร์นิวเคลียร์ ภาควิชารังสีวิทยา คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี อาคาร 1 ชั้น 1
โทรศัพท์. 02 201 1157, 02 201 2481-3
โทรสาร. 02 201 1191, 02 201 2484