ประวัติโดยย่อของภาควิชารังสีวิทยา
เมื่อมีการตั้งคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี เมื่อปี พ.ศ. 2514 ได้มีภาควิชารังสีวิทยาเกิดขึ้นด้วยโดยมี ศาสตราจารย์ นายแพทย์ทวี บุญโชติ เป็นหัวหน้าภาควิชารังสีวิทยาคนแรกจนถึงปี พ.ศ. 2525 ท่านได้ดำรงตำแหน่งคณบดี คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี นับเป็นคณบดีคนที่ 3 ของคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี นอกจากนี้ภาควิชารังสีวิทยาได้มีหัวหน้าภาควิชา อีก 6 ท่าน ตามลำดับดังต่อไปนี้
รายนามหัวหน้าภาควิชารังสีวิทยา นับตั้งแต่ก่อตั้งภาควิชาฯ มีดังนี้
1. ศาสตราจารย์ทวี บุญโชติ พ.ศ. 2514 - พ.ศ. 2528 |
2. ศาสตราจารย์คลินิกสุวัธนา นนทะสุต พ.ศ. 2528 - พ.ศ. 2532 |
3. รองศาสตราจารย์บุญช่วย สถาปัตยวงศ์ พ.ศ. 2532 - พ.ศ. 2536 |
4. ศาสตราจารย์พวงทอง ไกรพิบูลย์ พ.ศ. 2536 - พ.ศ. 2543 |
5. ศาสตราจารย์เกียรติคุณลักษณา โพชนุกูล พ.ศ. 2543 - พ.ศ. 2550 |
6. รองศาสตราจารย์ศิรินธรา สิงหรา ณ อยุธยา พ.ศ.2550 - 2554 |
7. ผู้ช่วยศาสตราจารย์สมใจ แดงประเสริฐ พ.ศ. 2554 - 2562 |
8. รองศาสตราจารย์สิทธิ์ พงษ์กิจการุณ พ.ศ. 2562 - ปัจจุบัน |
ภาควิชารังสีวิทยา มีกิจกรรมแยกเป็น 3 หน่วยดังต่อไปนี้ หน่วยแรกคือหน่วยรังสีวินิจฉัย สถานที่ทำการ อาคาร 1 ชั้น 2 และศูนย์รังสีวินิจฉัยก้าวหน้า (AIMC) ตึกสิริกิติ์ ในการปฏิบัติ 2 หน่วยงานนี้มีการบริหารงานแยกจากกันมาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งโดยศูนย์ AIMC อยู่ภายใต้การดูแลของมูลนิธิรามาธิบดีในด้านบริหารจัดการ แต่ในด้านการศึกษาทั้งหลักสูตรแพทยศาสตร์บัณฑิตและการฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้าน ยังอยู่ในกำกับดูแลของภาควิชารังสีวิทยา
หน่วยรังสีวินิจฉัยฝึกอบรมแพทย์ประจำ บ้านให้มีความรู้ความสามารถ ในด้านการตรวจวินิจฉัยภาพเอกซเรย์พื้นฐาน (Plain radiography) ตรวจและแปลผลด้วยเครื่องเอกซเรย์คอม
พิวเตอร์ (CT scan), เครื่องสนามแม่เหล็ก (MRI), เครื่องคลื่นเสียงความถี่สูง (Ultrasound)
และเครื่องเอกซเรย์เต้านม (mammography) เรียนรู้ หลักการพื้นฐานของเครื่องมือแต่ละชนิด
ข้อดี ข้อจำกัดของการตรวจ สามารถเลือกใช้เครื่องมือในการตรวจได้เหมาะสม สามารถรับปรึกษา ตลอดจนให้คำแนะนำในการตรวจทางรังสีวินิจฉัยได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้นแพทย์ประจำบ้านจะได้
รับการฝึกอบรมในด้าน Interventional radiology มีส่วนร่วมในการตรวจพิเศษ เช่น การตัดชิ้น
เนื้อตรวจโดยไม่ต้องผ่าตัด การขยายหลอดเลือดและท่อต่าง ๆ ในร่างกาย หรือแม้แต่การให้เคมีบำบัดผ่านเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงก้อนมะเร็งเป็นต้น ซึ่งรังสีแพทย์ต้องมีความรู้เกี่ยวกับงานทางด้านนี้พอสมควรเพื่อจะได้เลือก การตรวจทางรังสีวินิจฉัยที่เหมาะสมเข้าใจหลักการแปลผล และรู้ข้อจำกัดของการตรวจแต่ละชนิด เพื่อประโยชน์อันสูงสุดต่อผู้ป่วย
หน่วยที่สอง ของภาควิชารังสีวิทยา แพทย์ประจำบ้านจะได้มีพื้นฐานของการตรวจทางเวช
|
ส่วนหน่วยรังสีรักษานั้น ภาควิชาต้องการให้แพทย์ประจำบ้านรังสีวิทยา ได้รู้จักลักษณะของโรคมะเร็งชนิดต่าง ๆ ที่พบบ่อยในประเทศไทยได้รู้เข้าใจวิธีการรักษามะเร็งเหล่านี้
รู้จักหลักการใช้รังสีในการรักษาโรคมะเร็งที่พบบ่อย และได้พบเห็นวิธีการใช้รังสีชนิด
ต่าง ๆ รู้วิธีส่งต่อและตรวจติดตามผู้ป่วยหลังการรักษาด้วยรังสีได้ เพื่อให้ผู้ป่วยได้ประโยชน์สูงสุดในการรักษามะเร็ง และได้เรียนรู้สภาพทางร่างกายและจิตใจของผู้ป่วยโรคมะเร็งและญาติ และรู้วิธีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลเหล่านี้