เตือนโพสต์รูปลูกลงโซเชียล_edit01
หน้าแรก
เตือนโพสต์รูปลูกลงโซเชียลฯ อาจเกิดผลเสียที่คาดไม่ถึง
เตือนโพสต์รูปลูกลงโซเชียลฯ อาจเกิดผลเสียที่คาดไม่ถึง

ผู้ปกครองในปัจจุบันนิยมใช้โซเชียลฯ ในการโชว์ภาพถ่ายของลูกน้อยกันอย่างกว้างขวาง รวมถึงกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันของลูก หวังให้คนรอบข้างได้ชื่นชม ทั้งยังพบอีกว่าบางรายไม่เพียงแต่โพสต์ภาพถ่ายลูกในบัญชีโซเชียลฯ ส่วนตัวเท่านั้น แต่ยังมีการสร้างเพจหรือมี Instagram ให้ลูกโดยเฉพาะ และเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นส่วนตัว โดยหารู้ไม่ว่าการกระทำดังกล่าวมีข้อเสียแอบแฝงอยู่มากมายที่พ่อแม่คาดไม่ถึง จึงจำเป็นต้องทำความเข้าใจ เพื่อการใช้โซเชียลฯ ในการแบ่งปันเรื่องราวของลูกน้อยอย่างเหมาะสม

ข้อเสียของการโพสต์รูปลูกลงโซเชียลฯ

ก่อให้เกิดอันตรายต่อตัวเด็ก

การโพสต์รูปลูกน้อยแต่ละครั้ง อาจไม่ใช่แค่การอวดภาพถ่าย แต่ยังเป็นการแสดงออกถึง “ข้อมูลพื้นฐานของเด็ก” ได้แก่ ชื่อ อายุ โรงเรียน ช่วงเวลาที่ผู้ปกครองจะไปรับเด็กที่โรงเรียน และข้อมูลชีวิตประจำวันอื่น ๆ ของเด็ก ข้อเสียที่สำคัญคือถ้าหากข้อมูลเหล่านี้ถูกเผยแพร่ไปยังผู้ที่มีความประสงค์ร้ายต่อเด็กหรือมิจฉาชีพ อาจนำไปสู่อันตรายต่อตัวเด็กเอง เช่น การสะกดรอยตาม การลักพาตัวเด็ก เป็นต้น

การเลี้ยงดูที่ไม่เป็นธรรมชาติ

หลายครั้งที่พ่อแม่หรือผู้ปกครองเด็กมีการโพสต์รูปลูกลงโซเชียลฯ แล้วนำไปสู่การสร้างตัวตนให้เด็ก โดยเป็นไปในแบบที่ตนเองต้องการ ทำให้ในชีวิตจริง เด็กหลายคนต้องดูดีหรือดูน่ารักตลอดเวลา ต่อหน้าสาธารณชน อาจทำให้เด็กสูญเสียความเป็นตัวเองและสูญเสียความเป็นเด็ก เนื่องจากผู้ปกครองบางรายมีการจัดการกับเด็กที่ฝืนธรรมชาติ เพื่อให้ภาพที่ออกมาดูดี ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว เด็กบางคนอาจต้องการวิ่งเล่น ซุกซนตามวัย ร้องไห้ งอแง จึงอาจกลายเป็นปัญหาตามมาด้านการปิดกั้นพัฒนาการของเด็ก สืบเนื่องมาจากปัญหาการดำเนินชีวิตของเด็กที่ไม่เป็นธรรมชาติ

ส่งผลต่อสภาพจิตใจในอนาคตของเด็ก

พ่อแม่บางท่านโพสต์รูปลูกที่เป็นปัญหาต่อสภาพจิตใจเด็กในอนาคต เช่น รูปเด็กเปลือย เมื่ออนาคตเด็กโตขึ้น อาจถูกขุดคุ้ยภาพในอดีตที่พ่อแม่เคยโพสต์ไว้มาล้อเลียน และส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของเด็กเมื่อโตขึ้นได้ เป็นต้น หรือเด็กหลายรายไม่ชอบที่จะโตไปแบบมีคนรู้จัก หรือมีคนทักทายตลอดเวลา

ข้อควรทำในการโพสต์รูปลูกลงโซเชียลฯ

  1. พ่อแม่ควรเคารพสิทธิของเด็กในการจะโพสต์ภาพหรือข้อมูลที่เกี่ยวกับตัวเด็ก ถ้าจำเป็นหรือตัดสินใจโพสต์ควรคัดสรรเนื้อหาที่เหมาะสมในการโพสต์
  2. หากเด็กเริ่มรู้ความหรืออายุ 2-3 ขวบขึ้นไป ควรถามเด็กก่อนโพสต์ ว่าตัวเด็กเองชอบหรือไม่ชอบอย่างไร เด็กควรมีสิทธิในการอนุญาตก่อนโพสต์
  3. ก่อนโพสต์ภาพหรือข้อมูลอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับตัวเด็ก ควรคำนึงถึงอนาคตของเด็ก และควรแทนความรู้สึกของตัวเองลงไป ว่าถ้าหากเป็นตัวเองจะชอบโพสต์นั้นหรือไม่เมื่อโตขึ้น
  4. ไม่ควรเผยแพร่ข้อมูลที่เกี่ยวกับตัวเด็กแก่สาธารณะ ควรตั้งค่าให้เป็นส่วนตัว หรือตั้งค่าให้เห็นเฉพาะกลุ่ม ผู้ที่เห็นข้อมูลหรือโพสต์ที่เกี่ยวกับเด็กควรเป็นคนที่ไว้ใจได้ เช่น ญาติ คนรอบข้าง ควรละเว้นการเผยแพร่ข้อมูลให้กับบุคคลแปลกหน้า

 

ข้อมูลจาก
อ. พญ.จิราภรณ์ อรุณากูร
กุมารแพทย์เวชศาสตร์วัยรุ่น
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
มหาวิทยาลัยมหิดล


คลิกชมคลิปรายการ “เตือนพ่อแม่ โพสต์รูปลูกลงโซเชียล : พบหมอรามา ช่วง คุยข่าวเมาท์กับหมอ” ได้ที่นี่

บทความที่เกี่ยวข้อง

smiling depression คือ อาการ รอยยิ้ม โรคซึมเศร้า
รอยยิ้ม บนใบหน้าที่เป็นการแสดงความรู้สึกที่มีความสุข แต่ภายในจิตใจกลับทุกข์ไม่มีความสุข อาการแบบนี้อาจเสี่ยงเป็นภาวะ Smiling Depression
บทความสุขภาพ
21-03-2024

9

พยาธิในปอด อาการ รักษา โรคพยาธิใบไม้ในปอด อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ
อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ เป็นอาหารที่ไม่ผ่านการปรุงให้สุกตามสุขอนามัย สามารถส่งผลเสียต่อร่างกายทำให้เสี่ยงกับการเป็น โรคพยาธิใบไม้ในปอด ได้
บทความสุขภาพ
20-03-2024

2

ไข้หวัดใหญ่อาการ รักษา ไข้หวัดใหญ่ วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ุ A
“ไข้หวัดใหญ่” เป็นอีกหนึ่งโรคที่พบได้บ่อยในประเทศไทย โดยสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดทั้งปีแต่ช่วงที่เกิดการระบาดมากที่สุดคือช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว
บทความสุขภาพ
20-03-2024

8

กระดูก โรคกระดูกพรุน
กระดูกเสื่อม เปราะบาง ผิดรูป และมีโอกาสแตกหักได้ง่าย เป็นอาการของ โรคกระดูกพรุน ที่หากปล่อยไว้นานอาจเกิดโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ตามมาได้
บทความสุขภาพ
14-03-2024

12