เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมาหลังจากศิลปินหนุ่ม ตูน Body Slam ได้ทำกิจกรรมวิ่งการกุศล หาเงินบริจาคให้โรงพยาบาลบางสะพาน ซึ่งได้มีผู้ร่วมบุญเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังมีเหตุการณ์ที่แฟนคลับที่เข้ามาขอถ่ายรูปกับนักร้องหนุ่มขณะวิ่งซึ่งทำให้นักร้องหนุ่มนั้นต้องหยุดวิ่งกะทันหัน จนหลายคนออกมาเตือนว่าการหยุดวิ่งกะทันหันนั้นเป็นอันตรายมากและอาจทำให้กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดได้
ทั้งนี้หลายคนอาจยังสงสัยอยู่ว่าการหยุดออกกำลังกายกะทันหันนั้นทำไมถึงเป็นอันตราย โดยมีคำอธิบายคือ
ระหว่างการออกกำลังกายเส้นเลือดจะมีการสูบฉีด หัวใจเต้นเร็วขึ้น หากหยุดออกกำลังกายกะทันหันจะทำให้กล้ามเนื้อหัวใจบีบตัวสูบฉีดเลือดมากขึ้น กล้ามเนื้อไม่หดตัวเหมือนเดิม เลือดที่สูบฉีดมายังหัวใจจะน้อยลงแต่หัวใจเต้นเท่าเดิม ทำให้เกิดอาการหน้ามืด วิงเวียนศีรษะอาจทำให้หมดสติได้
ส่วนการหยุดออกกำลังกายที่ถูกต้องนั้นจะต้องมีการ Cool down ก่อน เพื่อให้กล้ามเนื้อและหัวใจที่ทำงานหนักขณะออกกำลังกายได้ค่อยๆ ทำงานลดจากนั้นร่างกายจะรักษาสมดุลเอาไว้
การออกกำลังกายที่ถูกต้องประกอบด้วย 3 ขั้นตอน ได้แก่
- Warm up เริ่มด้วยเดินหรือวิ่งเหยาะ (Jogging) ประมาณ 5-10 นาที ให้ร่างกายเตรียมพร้อม กล้ามเนื้อยืดตัวหดตัว
- Stretching การยืดเหยียด อีกประมาณ 5-10 นาที เพื่อความพร้อมของเอ็น ข้อ และการไหลเวียนโลหิต ป้องกันการบาดเจ็บที่จะเกิดจากการออกกำลังกาย
- Cool down การค่อยๆ ลด หรือผ่อน คือการออกกำลังกายให้เบาลงทีละน้อย จนกระทั่งหายเหนื่อย ทั้งนี้เพื่อให้กล้ามเนื้อและหัวใจที่ทำงานหนักขณะออกกำลังกาย ได้ค่อยๆ ทำงานน้อยลง
การออกกำลังกายที่เหมาะสมควรคำนึงถึงอัตราการเต้นของหัวใจสูงสุด
โดยทั่วไปหัวใจคนเราเต้นสูงสุด 220 ครั้ง/นาที แต่ขึ้นอยู่กับอายุด้วย โดยสามารถคำนวณได้จาก 220 – อายุ แล้วผลลัพธ์ที่ได้คืออัตราของหัวใจที่เต้นเร็วที่สุด และการออกกำลังกายที่ดีก็ไม่ควรเกิน 80% ของอัตราการเต้นของหัวใจสูงสุดของเรา เช่น ถ้าหากอายุ 20 ปี จะได้อัตราการเต้นของหัวใจสูงสุดเป็น 220 – 20 = 200 ดังนั้นไม่ควรออกกำลังกายให้หัวใจเต้นเร็วเกิน 160 ครั้ง/นาที
แต่ในความเป็นจริงไม่มีใครสามารถนั่งนับจังหวะการเต้นของหัวใจตัวเองได้ ดังนั้นการออกกำลังกายที่ดีให้วัดว่าระหว่างออกกำลังกายอยู่นั้นยังสามารถพูดกับคนข้างๆ ได้เป็นคำๆ อยู่หรือไม่ หากเสียงเริ่มสั่น หรือเริ่มพูดไม่เป็นคำ นั่นแสดงว่าคุณออกกำลังกายหักโหมเกินไปอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายและทำให้กล้ามเนื้อได้รับบาดเจ็บได้ แต่สำหรับอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตนั้นขึ้นอยู่กับตัวบุคคลว่าใครที่มีโรคประจำตัวก็อาจทำให้เกิดความเสี่ยงได้ ดังนั้นก่อนออกกำลังกายควรสำรวจตัวเองก่อนว่าร่างกายพร้อมหรือไม่
ข้อมูลจาก
อ. นพ.ธเนศ แก่นสาร
ภาควิชาเวชศาสตร์ครอบครัว
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามธิบดี
มหาวิทยาลัยมหิดล